ค้นหาแล้วเจอ

วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ทับสี่เพื่อนไม่ทิ้งกัน

วัฒนธรรมไทย

วัฒนธรรมไทย > ทุกภาค I
 
ดูรูปภาพ มารยาททางกายแบบไทย
ชื่อ
มารยาททางกายแบบไทย
ภาคทุกภาค
ลักษณะมารยาท


๑. ถ้าต้องนั่งกับพื้นต่อหน้าผู้ใหญ่ต้องนั่งพับเพียบโดยกิริยาสำรวมนั่งทรงตัวตรงเก็บเท้าทั้งสองข้างชิดตัวเรียบร้อยไม่เกะกะ วางมือทั้งสองข้างชิดตัวเรียบร้อยไม่เกะกะ วางมือทั้งสองไว้บนตัก หันหน้าไปสู่ผู้ใหญ่ในลักษณะหน้าเงย
๒. ไม่นั่งล้ำหน้าผู้ใหญ่ ไม่หันหลังให้ผู้ใหญ่ ไม่เหยียดเท้าให้ผู้ใหญ่
๓. ไม่ถือสาวิสาสะใช้หรือรับประทานของที่เขาจัดไว้สำหรับผู้อื่นโดยเฉพาะ
๔. ไม่ล้อเลียนผู้ใหญ่หรือผู้ที่สูงอายุกว่าตน
๕. ในงานพิธีใดที่เขาจัดเก้าอี้ให้แขกนั่ง เมื่อเห็นผู้ใหญ่ต้องยืนเพราะไม่มีที่นั่ง ผู้มีมารยาทดีควรลุกนั่งหรือหาที่นั่งเพิ่มเติมให้
๖. เมื่อต้องการจะดูสิ่งใดที่ผู้ใหญ่หรือผู้อื่นกำลังดูอยู่ เมื่อเขาไปทีหลังเขา อย่าเบียดแทรกเข้าไปหรือผู้อื่นข้างหน้า ต้องดูโดยมิให้เป็นการผ่านหน้าหรือบังตาผู้อื่น
๗. ก่อนจะช่วยเหลือทำสิ่งใดโดยจำเป็นจะต้องแตะต้องร่างกายผู้ใหญ่ให้ดี ผู้อื่นก็ดี
ควรกล่าวคำขอโทษเสียก่อนแล้วจึงช่วยเหลือ เช่น ปัดมด หรือหยิบผงออกจากตัวให้ เป็นต้น
๘. เมื่อเห็นสิ่งของ ๆ ผู้ใดตก หรือของนั้นจะเสียหายโดยเจ้าของไม่รู้ตัว ควรจะบอกให้เจ้าของทราบทันที
๙. ผู้มีมารยาทดีย่อมไม่ล้วง แคะ แกะ เกา หรือหาวเรอต่อหน้าผู้อื่น แม้จะไอจามก็ต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากให้เสียงค่อยลง และไม่ให้ผู้อื่นรังเกียจหรือรำคาญ
๑๐. เวลารับของจากผู้ใหญ่ ควรแบมือออกรับอย่าฉวยกระชากมาโดยแรง หรือถ้าเป็นของยาวควรแบมือรองรับของนั้น ถ้าเป็นของหนัก ก็ใช้มือทั้งสองรองรับของนั้นจากมือของผู้ใหญ่

การไหว้
การไหว้เป็นประเพณีไทยโบราณ เป็นวิธีเคารพแก่ผู้ควรเคารพ จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะแก่กาละเทศะ
๑. การไหว้มีหลายวิธี มีทั้งนั่งไหว้ยืนไหว้ เพื่อเคารพบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ใหญ่กว่าตน
ก. วิธีนั่งไหว้ นั่งพับเพียบพนมมือทั้งสองข้างขึ้นไว้ระดับอก ก้มศีรษะลงให้หัวแม่มือจรดกันที่หว่างคิ้ว
ข. วิธียืนไหว้ ถ้าจำเป็นต้องไหว้เพราะอยู่นอกสถานบ้านเรือน เมื่อพบคนที่ต้องเคารพตามหนทางก็ให้พนมมือทั้งสองยกขึ้นระดับอก ก้มศรีษะลงจนหัวแม่มือจรดกันหว่างคิ้ว

๒. การรับไหว้ เมื่อมีผู้ทำความเคารพให้แก่เรา ควรรับไหว้คือเคารพตอบเพื่อมิให้เสียมารยาท หรือทำให้ผู้แสดงความเคารพต้อง
กระดากใจ หรือโกรธจนเป็นเหตุให้นึกไม่อยากจะเคารพต่อไปได้
วิธีรับไหว้ ยกมือทั้งสองประนมไว้ระดับอก แล้วยกขึ้นให้สูงมากหรือน้อยตามฐานะของผู้ไหว้ และของผู้รับไหว้

๓. วิธีนั่งลงศอก เป็นวิธีเคารพผู้ใหญ่ที่มีอาวุโสสูงมากอีกแบบหนึ่ง ในเวลานั่งพับเพียบอยู่กับพื้น ในเมื่อผู้เป็นใหญ่มานั่งพูดคุยด้วย ครั้นจะนั่งพับเพียบตัวตรง ๆ ก็รู้สึกว่าเคารพไม่พอ จึงก้มตัวลงให้แขนทั้งสองวางลงบนตักมือประสานกันเงยหน้าขึ้น ในโอกาสที่ต้องพูดโต้ตอบหรือนั่งเฉย ๆ เงยหน้าพอควรถ้ามิได้พูดโต้ตอบกับผู้ใหญ่

๔. เมื่อนั่งเก้าอี้อยู่ ถ้าผู้สูงศักดิ์หรือผู้ที่เราเคารพอย่างสูงมายืนหรือนั่งพูดอยู่ใกล้ ๆ เราจะนั่งอย่างเคารพในลักษณะทอดศอกลงบนเข่าของเรามือประสานกัน พูดโต้ตอบกับท่านก็ได้ ดีกว่านั่งเก้าอี้ตัวตรงเฉยเสีย ห้อยเท้าให้ชิดกันแลเก็บเท้าให้ชิดกับเก้าอี้ให้มากที่สุด

๕. การกราบ
วิธีกราบ นั่งในท่าหมอบพนมือให้ชิดกันลงบนพื้นไว้ข้างหน้า ก้มศรีษะละกับพื้นให้หว่างคิ้วจรดนิ้วหัวแม่มือกราบหรือหมอบกราบจะกระทำให้แก่ผู้ทรงศักดิ์ เจ้านาย และอาวุโส และกราบครั้งเดียวโดยไม่แบมือลงกับพื้น

๖. การคลาน
วิธีคลาน เป็นการเคลื่อนตัวผ่านคนมาก ๆ ซึ่งกำลังนั่งอยู่กับพื้น หรือมีผู้อาวุโสที่นั่งอยู่กับพื้น ประเพณีของเราสอนกันไว้ว่าผู้มีมารยาทดีย่อมไม่เดินกรายหัวคน
วิธีคลานมีหลายชนิด การคลานคือใช้กระดูกหัวเข่าเคลื่อนออกไปแทนใช้เท้าเดิน
ก. คลานเข่า ใช้มือทั้งสองวางแบลงกับพื้นพยุงตัวไว้ นั่งคุกเข่าชิดกับพื้น กระดกนิ้วเท้ายันกับพื้นให้ตรงเท้าแขนทั้งสองให้มือแบยันพื้นจนสุดแขนแลตามด้วยเข่าซ้ายสลับกันไปถึงจุดหมายปลายทาง
ข. คลานเข่า คือคู้เข่าให้หัวเข่าทั้งสองข้างเคลื่อนไปข้างหน้า สลับเข่าซ้ายทีหนึ่งขวาทีหนึ่งแทนใช้เท้าเดินไม่ต้องใช้มือช่วยพยุงตัวแบบคลานสี่ขาอย่างข้อ ก. แต่การคลานแบบนี้ไม่สู้เป็นที่นิยมถือว่าไม่สุภาพเท่ากับคลานสี่ขาอย่างข้อ ก.
ค. คลานยกของมือเดียว ใช้เฉพาะพระมหากษัตริย์แลเจ้านาย แลผู้ทรงอาวุโส
คลานยกของสองมือ ( คลานโขยก )
มือทั้งสองถือของคุกเข่าแล้วตั้งเข่าขึ้นข้างหนึ่งให้ตรง สืบเท้าข้างหนึ่งไปข้างหน้าโดยการขยับตัว ( โขย่างตัวขึ้น ) แล้วเปลี่ยนเข่าอีกข้างหนึ่งตั้งขึ้นสลับกันไปจนถึงจุดหมาย
ง. คลานศอก คือคลานเข่าอย่างธรรมดา แต่งอศอกให้ลำแขนท่อนล่างทอดไปตามพื้นให้ศอกเลื่อนไปข้างหน้าแทนมือ แขนและขาจะเคลื่อนไปพร้อม ๆ กัน

๗. การยืน
เป็นอิริยาบถที่ใช้กระดูกส่วนยาวของขาแลหัวเข่าทุกส่วนช่วยกระดูกเชิงกราน กระดูกสันหลังพร้อมด้วยศีรษะขึ้นให้ตรงเพื่อให้น้ำหนักลงมาอยู่ที่ปลายเท้าสองข้างในเวลาตั้งตัวขึ้นตรง
การเคารพในท่ายืน มีดังนี้
ยืนเคารพธงชาติ เป็นสัญญลักขณ์ประจำชาติซึ่งเป็นที่รักแลหวงแหนของประชาชนผู้เป็นเจ้าของชาตินั้น ๆ ทั่วโลก ฉะนั้นเวลาเชิญธงชาติขึ้นเสาแลลงจากเสาทุกวัน เราจึงหยุดเคารพเป็นกิจวัตรประจำวันของประชาชนที่ได้เห็นแลได้ยินเพลงชาติบรรเลงตามเวลาที่เชิญธงชาติขึ้นหรือลง
๑. ในพิธีต่าง ๆ เมื่อเห็นคนเชิญธงชาติผ่านหน้า เราต้องยืนขึ้นเพื่อทำความเคารพทุกครั้ง ธงชาติเป็นสัญญลักษขณ์
อันศักดิ์สิทธิ์ของชาติ ในเมื่อข้าราชการหรือประชาชนคนใดบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ชาติต้องเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติราชการ รัฐบาลจะใช้ธงชาติคลุมศพเพื่อให้เกียรติอย่างสูง
๒. ในทันทีที่ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาถึงในงานพิธีต่าง ๆ เราต้องยืนตรงเพื่อถวายความเคารพ หรือเวลาเราอยู่บนถนนก็เช่นเดียวกัน คือรีบหันหน้าไปทางที่เสด็จ ฯ ผ่านแล้วหยุดยืนตรงเพื่อถวายความเคารพหรือจะถวายคำนับก็ได้
๓. ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีต้องหยุดยืนตรงนิ่งอยู่กับที่จนกว่าจะจบเพลงเพื่อถวายความเคารพ แลต้องถวายคำนับหรือยกมือไหว้เคารพเมื่อเพลงจบ
๔. ยืนต้อนรับผู้ใหญ่ที่กำลังเดินเข้ามาในงาน ถ้าเรากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ ต้องลุกยืนตรงด้วยความสำรวมเรียบร้อย
แลหันหน้าไปทางผู้ใหญ่
๕. ผู้มีมารยาทดีจะยืนตรงห้อยแขนและขาตามธรรมชาติเพื่อเคารพผู้ใหญ่ แต่ถ้าประสานมือไว้ข้างหน้าด้วยเป็นการแสดงความเคารพทวียิ่งขึ้น

๘. การเดิน
การเดินคืออยู่ในท่ายืน ก้าวขาตรงออกทีละข้างสลับกัน งอเข่าแล้ววางเท้าให้ตรงประดุจดังเดินบนกระดานแผ่นเดียว ควรเดินให้เรียบร้อย ไม่หัวเราะดังหรือสัพยอกกันเอะอะ ไม่ส่ายตัว ตั้งศรีษะตรง แขนแกว่งพองามไม่สูงจนน่าเกลียด ถ้าเดินเป็นหมู่ควรจะเหลียวดูรอเพื่อนที่ตามมาข้างหลัง ไม่เดินเร็วหรือช้าจนเกินไป

๙. การนอน
การนอนเป็นกิริยาทีวางร่างกายทุกส่วนทอดราบลงบนเตียงหรือบนพื้นที่ใช้นอนสุภาพชนควรนอนเฉพาะที่และ
เหมาะแก่กาละไม่ใช่ทั่วไป

๑๐. มารยาทแบบสากลทางกาย
การจับมือแบบฝรั่งเป็นเครื่องหมายแสดงความยินดีในการต้อนรับแสดงความเคารพเป็นมิตรไมตรีไว้เนื้อเชื่อใจกัน อาการกิริยาที่ใช้แสดงการยื่นมือขวาเปล่า ๆ ออกมา ย่อมแสดงให้ทั้งสองฝ่ายเห็นความบริสุทธิ์ซึ่งกันและกัน เปิดเผยซึ่งกันและกันว่าไม่มีอะไรซุกซ่อนในมือก่อนที่จะจับมือกัน เช่นเดียวกับการแสดงความเคารพของประเพณีไทย ด้วยการยกมือทั้งสองข้างมาพนมแล้วก้มศรีษะลงแสดงความเคารพ

วัยรุ่นกับยาเสพติด


วัยรุ่นกับยาเสพติด

ปัญหาวัยรุ่นกับยาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่มากในขณะนี้ หลายท่านอาจจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมในปัจจุบันวัยรุ่น ถึงหันเข้าไปหายาเสพติดกันมากอย่างนี้
เท่าที่ได้มีการสำรวจมา สาเหตุใหญ่ของการเริ่มเข้าไปใช้ยาเสพติดของวัยรุ่นยังเป็นเรื่องของความ ”อยากลอง” ความเป็นวัยรุ่นของเขาทำให้เขาอยากลองในสิ่งแปลกใหม่ ร่วมกับอีกปัญหาหนึ่งคือการ “ตามเพื่อน” ความจริงแล้วเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น ไม่ว่าจะในยุคใดสมัยใด ที่จะสนใจเพื่อน อยากจะลอง อยากจะเป็นอย่างคนนั้นคนนี้ หรืออยากจะทำอย่างที่เพื่อนทำ จนกระทั่งกลายมาเป็นแฟชั่น ปัจจุบันมีเด็กบางคนหันเข้าไปหายาเสพติด เพียงเพราะรู้สึกว่า ใครๆ เขาก็ทำกัน เป็นเรื่องธรรมดา ไม่เห็นจะแปลกอะไร ถ้าถามว่ารู้โทษของยาเสพติดไหม เด็กๆ ก็รู้ แต่เพียงเพราะอยากที่จะตามเพื่อนๆ ไป ทำให้ตัดสินใจผิดพลาด กลายไปเป็นเหยื่อของสารเสพติด
นอกจากนี้สภาพแวดล้อม ก็มีส่วนเอื้อให้มีปัญหายาเสพติดขึ้น เดิมทียาเสพติดเป็นสิ่งที่จะมีในสถานที่หรือแหล่งที่มีลักษณะจำเพาะในการระบาดของยาเสพติดเท่านั้น แต่ปัจจุบันยาเสพติดได้แพร่ระบาดมาถึงในโรงเรียนแล้ว เด็กๆ สามารถหายาเสพติดได้ในโรงเรียน และแม้แต่รอบรั้วโรงเรียนเองก็กลายเป็นที่ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กของเราไปเสียแล้ว
ปัญหาอีกประการหนึ่งที่ทำให้เด็กบางคนเข้าไปสู่การใช้ยาเสพติด ก็คือปัญหาเรื่องของการต่อต้านผู้ใหญ่ อันนี้เป็นเรื่องตามวัยของเขาด้วย ด้วยความที่เขาอยากเป็นตัวของเขาเองทำให้เด็กบางทีรู้สึกไม่อยากเชื่อฟังสิ่งที่ผู้ใหญ่พูด บางทีก็แสดงความก้าวร้าวออกมา ถ้าคุณพ่อคุณแม่หรือคุณครูไม่เข้าใจ ก็จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบที่รุนแรงกับเด็ก หรือพยายามเข้าไปควบคุมหรือจัดการกับเขา เด็กก็จะยิ่งต่อต้านมากขึ้น อะไรที่เรารู้สึกว่าไม่ดี อะไรที่เราห้ามเขา อะไรที่เราบอกว่าอย่าทำ เด็กก็จะยิ่งอยากทำ เหมือนจะประชดผู้ใหญ่ไปทางหนึ่งด้วย แต่ด้วยประสบการณ์ที่ยังอ่อนอยู่ ทำให้ไม่ทราบว่าการประชดด้วยการใช้ยาเสพติดนั้นเป็นสิ่งที่มีอันตรายต่อตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนปัจจัยต่อไปที่จะทำให้เด็กบางคนที่เมื่อหันเข้าไปลองแล้ว เกิดการติดยาเสพติดค่อนข้างจริงจัง คือปัญหาในเรื่องของภาวะทางอารมณ์ เด็กๆ หลายคนไม่มีความสุข เขารู้สึกเศร้าใจ รู้สึกทุกข์ใจ มีปัญหาต่างๆ รอบตัวโดยเฉพาะเรื่องในครอบครัว ความไม่ลงรอยกันในครอบครัว ความขัดแย้งกันของคุณพ่อคุณแม่ การทะเลาะเบาะแว้งกันที่บางทีถึงขนาดทำร้ายร่างกายกัน ทำให้เด็กรู้สึกไม่มีความสุข ความกลัดกลุ้มใจ ทุกข์ใจเช่นนี้แหละที่ทำให้เขาจมอยู่กับยาเสพติด บางคนอาจลองด้วยความตั้งใจ เพราะรู้สึกว่าในขณะที่ชีวิตไม่มีความสุขนั้น มีบางสิ่งบางอย่างที่ให้ความสุขกับเขาได้ ทำให้เขาลืมความทุกข์ต่างๆ เหล่านี้ไปได้ หากครอบครัวมีความสุข เด็กจะไม่คิดสนใจพึ่งยาเสพติดเช่นนี้
ปัจจุบันยาเสพติดได้เปลี่ยนรูปแบบของการระบาดไปมาก จากเดิมเคยพบเป็นเฮโรอีน ก็กลายเป็นยาบ้า ตัวยานี้ออกฤทธิ์ต่อสมองโดยเข้าไปปรับหรือเปลี่ยนแปลงสารเคมีบางตัว ทำให้มีฤทธิ์ที่ทำให้ผู้เสพรู้สึกคึกคัก มีพลัง หรือเพลิดเพลินค่อนข้างมาก เราจึงได้ยินข่าวบ่อยๆ ว่า วัยรุ่นไปจัดปาร์ตี้กันเพื่อความสนุก แล้วมียาเสพติดเข้ามามีส่วนประกอบ เด็กหลายคนชอบใจติดใจความสนุกสนานที่ได้รับจากฤทธิ์ของยาที่ตัวเองใช้กับเพื่อน ก็มาเล่าให้เพื่อนฟัง ชักจูงกันว่าสนุกสนานดีกว่าที่ไปปาร์ตี้กันเฉยๆ หรือในหลายครั้งก็มีลักษณะของการมอมเมา คือมีการแอบปนยาเสพติดในงานที่จัด หรือเพื่อนบางคนอาจจะไม่รู้แต่พอได้รับผลที่เกิดความสนุกขึ้นมา ก็เกิดความติดใจแล้วอยากจะใช้อีก จึงทำให้เกิดยาแพร่ระบาดไปได้เร็ว
ยาเสพติดมีผลกระทบต่อตัวเด็กในหลายด้าน ผลกระทบอันแรกที่เราอาจจะสังเกตได้อย่างชัดเจนก็คือผลการเรียน ยาเสพติดเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อสมอง ฉะนั้นความสามารถในการเรียน ความตั้งใจ สมาธิในการเรียนของเขาจะลดลง ผลการเรียนก็เริ่มตกลง เด็กจะเริ่มมีปัญหาในการฝ่าฝืนกฎระเบียบ เพราะอยากจะใช้ยา บางทีอาจเห็นเด็กอยากโดดเรียน ออกจากโรงเรียนก่อนเวลาโรงเรียนเลิก เพราะว่าอยากจะไปใช้ยาเสพติด หรืออาจพบมีปัญหาเที่ยวกลางคืนมากขึ้น
ผลกระทบต่อไป คือ ผลกระทบต่อร่างกาย ตัวยาเสพติดเองมีฤทธิ์โดยตรงต่อการทำงานของสมองของเราหรือมีฤทธิ์โดยตรงต่อทางร่างกาย การที่เราไม่หลับไม่นอนเอาแต่สนุกสนานนั้น ร่างกายเราสู้ไม่ไหว ก็จะทรุดโทรมลง เหนื่อย อ่อนเพลีย รู้สึกอยากจะนอนมากขึ้น เด็กอาจจะง่วงเหงาหาวนอนมากขึ้นในชั้นเรียน
ภาวะทางจิตใจเองก็มีผลให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวล เกิดความรู้สึกก้าวร้าวมากขึ้น เพราะเมื่อมีความต้องการใช้ยา เด็กก็จะกระวนกระวาย เวลาใครเข้ามาขัดขวาง เด็กก็จะรู้สึกหงุดหงิด อาจจะทำอะไรลงไปที่รุนแรงมากขึ้น ที่สำคัญคือในบางรายอาจเกิดอาการทางจิตขึ้นอย่างที่เราเห็นข่าวกัน โดยยาบ้าอาจทำให้เกิดอาการหลอนทางประสาท ทำให้เกิดความรู้สึกหวาดระแวงว่าจะมีคนทำร้าย ดังนั้นเขาอาจทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมขึ้น เนื่องจากอาการทางจิตของเขา เช่น ใช้มีดจับคนเข้ามาเป็นตัวประกัน หรือกังวลว่าเขาจะทำร้ายตัวเอง ก็จะแสดงอาการก้าวร้าวต่อคนอื่นได้
ยาบ้ายังทำให้เด็กมีโอกาสทำผิดกฎหมายได้มาก ด้วยความที่อยากได้ยามาใช้ เด็กอาจจะเริ่มลักขโมย ขโมยของ หรือว่าทำผิดกฎหมายอื่นๆ เช่น ขู่กรรโชกเพื่อที่จะได้เงินมา นอกจากนี้มีผลกระทบอีกอันหนึ่งซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่สบายใจทีเดียว คือ เด็กกลายเป็นผู้ขายยาเสพติดเสียเอง เพื่อเอาเงินบางส่วนไปซื้อยามาเสพ ซึ่งตรงนี้เป็นผลกระทบซึ่งรุนแรงทีเดียวสำหรับเด็ก
การป้องกัน ทำอย่างไรเด็กของเราจึงจะไม่หันมาใช้ยาเสพติดอย่างนี้ ความใกล้ชิดในครอบครัวนี่แหละคือภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดในเรื่องปัญหายาเสพติด ความเอาใจใส่กับลูกไม่ได้เริ่มที่วัยรุ่น จริงๆ แล้ว เราเอาใจใส่รักใคร่กับเขามาโดยตลอด ความผูกพันอย่างนี้ ทำให้เด็กรับรู้และเข้าใจตระหนักดีว่า การหันเข้าไปหายาเสพติดทำให้ครอบครัวของเขาเกิดปัญหาขึ้น เขาจึงมีแรงยึดเหนี่ยวจากความรักความเอาใจใส่จากครอบครัว ทำให้ไม่หันเข้าไปหายาเสพติด
การพูดคุยกับลูกวัยรุ่นก็เป็นเรื่องจำเป็น แต่ว่าจะพูดอย่างไรจึงจะพอเหมาะ ด้วยความกังวลใจ คุณพ่อคุณแม่อาจจะเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตเขามากขึ้น เข้าไปควบคุมเขา เข้าไปกำกับดูแล เข้าไปดูว่าเขาคุยโทรศัพท์กับใคร ในกระเป๋าเขามีอะไรบ้าง เข้าไปค้นในห้องนอนของเขา ลักษณะเช่นนี้ต้องระวังในเด็กวัยรุ่น เขาไม่ชอบให้เราเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตของเขา การใช้วิธีพูดคุยกันในทำนองของการไถ่ถามถึงเรื่องราวทั่วๆ ไป เปิดโอกาสให้เขาปรึกษาหารือ พร้อมที่จะรับฟังเขา จะทำให้ความรู้สึกต่อต้านของเด็กลดลง เมื่อเขาเห็นว่าเราวางใจเขา ก็จะยินดีให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาว่าเวลานี้ เขาคิดอย่างไร เขารู้สึกอย่างไร คุณพ่อคุณแม่อาจลองถามไถ่ต่อไปว่า มีบ้างไหม เขาบังเอิญเข้าไปใกล้ชิดกับปัญหาเรื่องยาเสพติด เขาคิดว่าเขาจะป้องกันตัวเองอย่างไร ถ้าเราพูดกับลูกอย่างนี้ เราจะได้แนวคิดว่าจริงๆ แล้วลูกเรามีความพร้อมในเรื่องการดูแลตัวเองจากยาเสพติดไหม ถ้าเขามีแนวคิดที่ดีอยู่แล้ว เขาป้องกันตัวเองอยู่แล้ว เราก็ให้เพียงแค่การสนับสนุน ชื่นชมเขา หรืออาจเสนอข้อมูลที่เราได้รับรู้มาใหม่ๆ เพื่อเขาจะได้ระมัดระวังตัวเขาเองมากขึ้น
อีกประการหนึ่ง คือเรื่องการสังเกตพฤติกรรม โดยเมื่อเริ่มมีปัญหาแล้วเรารีบเข้าไปแก้ปัญหาโดยเร็ว ก็ย่อมจะดีกว่าปล่อยให้เขาติดยาเสพติดจนเรื้อรังจนแก้ไขได้ยาก การสังเกตพฤติกรรมช่วงแรกๆ จะพบว่าเด็กเริ่มมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอารมณ์หงุดหงิดและก้าวร้าว เด็กบางคนอาจเก็บตัวมากขึ้น หรือมีพฤติกรรมที่แอบซ่อน เพราะว่าเขาคงไม่อยากเปิดเผยถึงการใช้ยาของเขาให้เราทราบ ถ้าเขามีปัญหาของการแอบซ่อนอย่าใช้วิธีค้นอย่างที่ว่า เพราะยิ่งหาเด็กก็ยิ่งพยายามซ่อน ระยะนี้อาจเพียงแต่เฝ้ามองพฤติกรรมอยู่ห่างๆ ดูซิว่าลูกเริ่มโกหก ลูกเริ่มแสดงพฤติกรรมหลอกลวงหรือเปล่า แล้วก็ดูด้านอื่นร่วมกันด้วย เช่น เรื่องการเรียน คุณพ่อคุณแม่อาจจะประสานกับคุณครูที่ดูแลลูกว่าขณะนี้ลูกมีปัญหาในชั้นเรียนอย่างไรไหม มีผลการเรียนตกลงไหมเพราะอะไร
กลุ่มเพื่อนของลูกก็เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเรายอมรับเพื่อนของลูก เราก็สามารถติดตามได้ว่าเขาไปทำอะไรกันที่ไหนบ้าง แต่ถ้าเราปฏิเสธไม่ยอมรับเพื่อน ลูกก็จะเริ่มไม่บอกกับเราอย่างตรงไปตรงมา อาจยังแอบคบหาสมาคมกันโดยที่เราไม่รู้ ซึ่งข้อนี้จะเป็นอันตรายมากกว่า เพราะเราไม่มีทางทราบว่าเขาไปทำอะไร ที่ไหน เมื่อไรบ้าง แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่เปิดใจรับให้เพื่อนของลูกเข้ามาในบ้าน เข้ามาพูดคุยกัน ทำกิจกรรมบางอย่างร่วมกันที่บ้าน ซึ่งดูแล้วอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม เช่น เขาอาจจะอยากขอมาเล่นดนตรีด้วยกันที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็ควรอนุญาตหรือยอมให้เขาทำอะไรบางอย่างร่วมกันบ้าง คุณจะได้เห็นลูกกับเพื่อนในสายตาอยู่เกือบตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยได้มากทีเดียวว่า ขณะนี้เขาไปทำอะไรที่ไหนบ้าง และการที่เราเปิดเผยกับลูก ยอมรับลูกในเรื่องต่างๆ เช่นนี้ จะทำให้ลูกเองก็พร้อมที่จะเปิดเผยกับเราด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นเรามาร่วมมือกันอย่างนี้ก็คงช่วยกันไม่ให้ลูกเราหันเข้าไปหายาเสพติดกันได้

ปัญหาสิ่งแวดล้อม

ปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน
      ในปัจจุบันสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ ทั้งภายในประเทศและในท้องถิ่นมีแนวโน้ม
ถูกทำลายเพิ่ม มากขึ้น ในขณะเดียวกัน    สิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรม (ที่มนุษย์สร้างขึ้น)
กลับเพิ่มมาแทนมากขึ้นเป็นลำดับ ทั้งนี้เนื่องจาก  ในปัจจุบันจำนวนประชากรมนุษย์เพิ่ม
ขึ้นอย่างรวดเร็ว   มีการประดิษฐ์และพัฒนาเทคโนโลยี  มาใช้อำนวยประโยชน์ต่อมนุษย์
เพิ่มมากขึ้น ผลจากการทำลายสิ่งแวดล้อม  ทางธรรมชาติ  ส่งผลกระทบต่อ มนุษย์หลาย
ประการ เช่น ปัญหาการแปรปรวนของภูมิอากาศโลกการร่อยหรอ    ของทรัพยากรธรรม
ชาติภัยพิบัติมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น   มลพิษสิ่งแวดล้อมขยายขอบเขต กว้างขวางมาก
ขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรง    ต่อการดำรงอยู่และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของมนุษย์ เพื่อ
ป้องกันปัญหาดังกล่าวทุกคนจึงต้อง     ตระหนักถึง ปัญหาร่วมกัน โดยศึกษาถึงลักษณะ
ของปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้น ตลอดจนแสวงหาแนวทางในการ ป้องกันเพื่อแก้ปัญหา
ผลกระทบที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีที่มีต่อสิ่งแวดล้อม
    เทคโนโลยี คือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยประโยชน์หากนำมาใช้อย่างไม่ระมัด
ระวังก็จะส่งผล กระทบต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ในระยะที่ผ่าน
มามนุษย์ได้พัฒนาเทคโนโลยี มาใช้ประโยชน์ในทุก ๆ ด้าน แต่ในทางตรงกันข้าม ผล
จากการใช้อย่างขาดสติก็ได้ส่งผลกระทบต่อทั้งมนุษย์ และสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน ดังนี้
1. ผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นปัจจัยสำคัญ ในการ ดำรงชีวิตของทั้ง มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งมวลถูกทำลาย และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คือ
(1) การสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่
- การสูญเสียทรัพยากรดิน เกิดปัญหาการพังทลายของดิน ดินเสื่อมคุณภาพ อันเป็นผล
  จากการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร การใช้สารเคมีในการเกษตร
- การสูญเสียทรัพยากรน้ำ เช่น แหล่งต้นน้ำลำธารถูกทำลาย ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาน้ำ
   เน่าเสีย การทิ้งสิ่งปฏิกูลที่ย่อยสลายได้ยาก และปล่อยสารเคมีลงสู่แหล่งน้ำ
- การสูญเสียทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าอันเนื่องมาจากการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ใน
  การทำลายป่าอันเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า
- การสูญเสียทรัพยากรแร่ธาตุ และพลังงานจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน   ทำให้มีการนำทรัพยากรแร่ธาตุมาใช้อย่างแพร่หลายโดยเฉพาะพลังงาน ปีหนึ่ง ๆ ต้อง
   สูญเสีย งบประมาณในการ จัดหาพลังงานมาใช้เป็นจำนวนมหาศาล
(2) สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
     หลังจากที่สิ่งมีชีวิตก่อกำเนิดขึ้นบนโลก จากนั้นได้วิวัฒนาการเพิ่มจำนวนและชนิด
มากขึ้นเป็นลำดับ ต่อจากนั้น  ผลจากการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม  ตามธรรมชาติ
ทำให้สิ่งมีชีวิตมีแนวโน้มสูญพันธุ์อย่างช้า และมีการคาดการณ์ว่าสิ่งมีชีวิต   จะมีอัตรา
การสูญพันธุ์ เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1,000 เท่า
(3) การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก      กิจกรรมของมนุษย์หลายประการมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศ ซึ่งจะส่งผลต่อ
มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ดังนี้
         
   
การเกิดภาวะเรือนกระจก (Greenhouse Effect)      สาเหตุสืบเนื่องมาจากการสะสมของ ก๊าซที่มีคุณสมบัติในการดูดซับความร้อนจาก
ดวงอาทิตย์ เช่น ก๊าซคาร์บอน   ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง   ที่เป็นซากสิ่งมีชีวิต
และก๊าซมีเทนซึ่งเกิดจากการเน่าเปื่อยของสิ่งมีชีวิตเป็นต้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการตั้ง
ถิ่นฐานมนุษย์ เนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ระบบนิเวศจะเปลี่ยนแปลงจากภาวะปัจจุบัน
บรรยากาศโอโซนถูกทำลาย   ในปัจจุบันได้เกิดภาวะที่รุนแรงขึ้นกับโลก และกำลังมี ผล
กระทบต่อสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ   ที่อาศัยอยู่บนโลกทั้งบนบก    และในทะเลคือ    การที่รังสี
ีอัลตราไวโอเลตส่องผ่าน ชั้นบรรยากาศลงสู่พื้นโลกมากเกินไป     เนื่องจากบรรยากาศ
ชั้นโอโซนถูกทำลาย
(4) เกิดปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม
    หมายถึง ของเสียหรือสิ่งแปลกปลอมที่ปนเปื้อน และก่อให้ เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งประกอบด้วยมลพิษจากแหล่งชุมชน    มลพิษจากแหล่งอุตสาหกรรม และมลพิษ จาก
แหล่งเกษตรกรรม
2. ผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยีที่มีต่อสิ่งแวดล้อมทางสังคม     นอกจากจะส่งผลกระทบต่อ   สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติแล้ว หากนำมาใช้อย่างไม่
่ระมัดระวังก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางสังคม และวัฒนธรรมของมนุษย์ได้ เช่น
(1) ปัญหาการเพิ่มประชากรอย่างรวดเร็ว      เนื่องมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ หากไม่มีการป้องกันหรือ
แก้ไข ในอนาคตก็จะเกิดปัญหาวิกฤติประชากรได้
(2) สูญเสียความหลากหลายทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น      เกิดจากความเจริญก้าวหน้า ด้านการคมนาคม ขนส่ง การสื่อสาร ทำให้เกิดการแลก
เปลี่ยนวัฒนธรรมอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งคนรุ่นหลัง ไม่มีเวลาในการคัดเลือกสิ่งดี ๆ ของ
ภูมิปัญญาดั้งเดิมมาปรับใช้
(3) สูญเสียความเข้มแข็งของสถาบันทางสังคม สถาบันต่าง ๆ
      ทางสังคม เช่น ครอบครัว ชุมชนศาสนาการศึกษามีบทบาทต่อวิถีชีวิตของสมาชิก
ในสังคมน้อยลง สื่อและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาทำให้เกิด ปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม โสเภณี คอร์รัปชัน การว่างงาน

ที่มา: http://www2.se-ed.net/nfed/geography/geo03_4.html

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

ดอกจานเหลือง



ดอกไม้ประจำจังหวัด
   เชียงใหม่, ลำพูน, อำนาจเจริญ, อุดรธานี

ชื่อดอกไม้
   ดอกทองกวาว

ชื่อสามัญ
   Flame of the forest, Bastard Teak, Bengal kinotree, Kino tree

ชื่อวิทยาศาสตร์
   Butea monosperma

วงศ์
   LEGUMINOSAE

ชื่ออื่น
   กวาว ก๋าว (ภาคเหนือ), จอมทอง (ภาคใต้), จ้า (เขมร), ทองธรรมชาติ ทองพรหมชาติ ทองต้น (ภาคกลาง), ดอกจาน (อิสาน)

ลักษณะทั่วไป
   ทองกวาวเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่สูงประมาณ 10–15 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดรูปทรงไม่แน่นอน ส่วนใหญ่จะกลม หรือเป็นทรงกระบอก ใบประกอบมี 3 ใบ ขนาดไม่เท่ากัน ใบหนาและมีขน ใต้ใบสีเขียวอมเทา ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง คล้ายดอกถั่ว สีแสดแดงหรือเหลือง มีขน ออกดอก เดือนธันวาคม–มีนาคม ผลเป็นฝักแบน มีขนนุ่ม เมล็ด 1 เมล็ดอยู่ที่ปลายฝัก

การขยายพันธุ์
   การเพาะเมล็ด

สภาพที่เหมาะสม
   ดินร่วนซุย แสงแดดจัด

ถิ่นกำเนิด
   อินเดีย



ขอขอบคุณ แหล่งที่มาจาก : panmai.com

วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553

จิตสาธารณะ

เก็บขยะที่หน้าห้องศิลปะ


                                                             เก็บขยะที่หน้าห้องศิลปะ
                                                            
เก็บขยะที่หน้าห้องศิลปะ

วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แนะนำสมาชิกในกลุ่ม

1.ด.ญ.ธัญสินี ธรรมนาวรรณ เลขที่ 6
2. ด.ญ.ณัฐณิชา ทุ่มเที่ยง เลขที่ 45
3.ด.ญ.ศศิวิมล เดื่อไธสง เลขที่ 47
                        ม.3/4